Monday, May 17, 2010

จดทะเบียน bigbike ทำอย่างไรค่ะ

(จาก: Pantip)
1.ต้องยื่นเรื่องเสียภาษีสรรพสามิตได้ที่ว่าการอำเภอ ทุกแห่ง หรือยื่นที่กรมสรรพสามิต กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่า โดยสรรพสามิตจะได้พิจารณค่าธรรมเนียมตามระเบียบหลักเ กณฑ์ที่กำหนด พิจารณาจาก รุ่น ยี่ห้อ ชนิดรถ ราคากลาง ตามอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้

2.หลัง จากเสร็จเรื่องจากสรรพสามิตเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำรถที่ประกอบเองนั้นไปที่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ที่กรุงเทพฯ นะครับ เพื่อยื่นเรื่องขอตรวจสภาพ โดย สมอ.จะส่งให้สถานที่ตรวจของเอกชนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งมีอยู่ 2 ที่ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จว.สมุทรปราการ และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จว.ชลบุรี
การ ดำเนินการเจ้าของก็ต้องยื่นเรื่องคำขอต่อ สมอ. ซึ่งจะพิจารณาตามลำดับในการส่งตรวจ และรอรับผลการตรวจสอบจากหน่วยงานทั้ง 2 แห่ง ว่าผ่านการตรวจหรือไม่ผ่านการตรวจ โดยมีค่าธรรมเนียมการตรวจเริ่มต้นที่ 27,000 บาท (ชำระก่อนนำรถไปตรวจสภาพนะครับ)

3.ระหว่างนั้นก็ให้ผู้มีใบรับรอง วิศวกรรมเครื่องกล ทั้งจากหน่วยงานราชการหรือเอกชน หรือตามวิทยาลัยเทคนิคก็ได้ รับรองความมั่นคง แข็งแรงในการประกอบ เพื่อออกเอกสารนำประกอบการพิจารณา

4.เมื่อได้ดำเนินการทั้ง 3 ขั้นตอนเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รวบรวมเอกสารดังกล่าวยื่นจดทะเบียนต่อขนส่งจังหวัด นั้นๆที่ขอจดทะเบียน หากเอกสารถูกต้องก็จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

ปล.ถ้าเป็นตัว พันซีซีขึ้นไป ก็มีราคาแยกระหว่างรถฟูลแฟริ่งกับไม่ฟูลแฟริ่งอีก เริ่มต้นไม่น้อยกว่า 50,000 ขึ้นไปถึง90,000 สำหรับรถที่เอกสารครบพร้อมจดทะเบียน ขั้นตอนวุ่นวายครับ แต่รถตัวพันปีใหม่ๆจะดูจดแล้วคุ้มกว่ารถ ซีซีน้อยกว่า 400

อืม..ดูใช่เงินแยะจังแฮะ 50000-90000 ซื้อได้อีกคันเลยนะนั้น

มีคนบอกเราว่า ที่ผ่าน สมอ. ยาก และก็ภาษีขูดเลือด เพราะเค้ากลัวว่า รถศูนย์จะขายไม่ออก ค่ายรถเลยใช้กำลังภายในขั้นเทพ ในการกดดันรัฐ เพื่อไม่ให้การประกอบและจำหน่ายรถแบบถูกกฏหมายได้ง่ายๆ แต่..

ก็ มีคนที่สามารถผ่าน สมอ. ได้เหมือนกัน ซึ่งเราก็อยากรู้ว่าเค้าทำไงกัน ก็รู้แหละว่าคงมีนอกมีใน อะไรเยอะแยะ แต่ทาง สมอ. ก็คงมีหลักเกณฑ์พอควรในการตรวจ แล้วหลักเกณฑ์นั่นคืออะไร ท่านใดเคยมีประสบการณ์ ช่วยบอกด้วยนะคะ

เราไม่อยากให้การทำผิดกฏหมาย เป็นเรื่องง่ายกว่าการทำให้ถูกต้องเลย ทั้งที่ชีวิตจริงมันเป็นแบบนั้น เฮ้อ...สบายใจไทยแลนด์จริงๆ

^
^
^
ว่าด้วยรถคาร์บู ทำได้สิครับ เงินอย่างเดียว ถ้ามีเงินจ่าย ราคาสูงเอาการอยู่ อย่างที่ คห.3 ว่าไว้ งานนี้ นายหน้า คนวงในอย่างเดียวเลย แต่จะคุ้มหรือไม่อันนี้อีกเรื่องนึง
แต่เขาเอารถคุณไปตรวจด้วยนะครับ อาจจะเอาไปปรับแต่งอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้ วงในเขารู้กันเอง เพื่อให้ตรวจผ่าน
ถ้ารักรถ อาจต้องยอมจ่าย เพื่อสามารถจดทะเบียนแท้ เอามาขี่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ฝัน ไว้อยากทำให้เหมือนร้าน 59bike ก็ทำได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่า รถที่ทำขาย ต้องเป็นรถใหม่ ๆ ปี 2000 ขึ้น เหมือนร้านเขานะ ถึงจะทำได้ แต่ก็ต้องรู้จักนายหน้าติดต่อด้วย เส้นสายต้องเยอะพอสมควร
แต่ถ้าเข้าที่แล้ว ก็ไม่มีอะไรมาก สบาย ๆ
ถ้าเป็นรถเก่า ก็คงยุ่งยากมากหน่อย เหนื่อยครับ เหนื่อย

จริงๆแล้วถ้าทำเล็กๆแล้วรายได้ดี ก็ทำอย่างนั้นไปก่อนดีกว่าครับ ทำให้สะอาดดูดีขึ้นก็พอ แต่ถ้าจะเอาแบบ 59 bike อาจจะเหนื่อยมากๆ แล้วนาทีนี้ไม่รุ้จะคุ้มรึเปล่าด้วยครับ เพราะ แต่ละค่ายก็มีโชว์รูมบิ๊กไบค์แล้ว ยิ่งถ้าเกิดปีหน้า มี jaffa ( ไม่รู้เขียนถูกป่าวนะครับไม่แน่ใจ ) นำเข้าจากญี่ปุ่นไม่เสียภาษีอีก งานนี้ผมว่า การค้าขายเมืองไทยอาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้างล่ะ ไม่มากก็น้อย

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่แนะให้ทำถึงขนาดนั้นครับ เพราะมันเหนื่อยครับ อีกอย่างคุณต้องรู้จักคนใน และก็คุณต้องเป็นคนที่กว้างขวางพอสมควร เพราะของพวกนี้ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเอารถไปจดก็จดกันง่าย ๆ บางทีกว่าจะผ่านก็หมดไปเยอะอ่ะครับกว่าจะได้ทะเบียน หลายท่านเลยเลือกที่จะขับแบบ INV กันต่อไป อย่างน้อยโดนจับก็ยังไม่ถูกยึดถ้าทุกอย่างถูกต้องน่ะ

แล้วอีกอย่างของพวกนี้เขามีพวกคนใหญ่คนโตของค่ายร้านต่าง ๆ หนุนหลังอยู่ครับ คงไม่ยอมให้จดกันง่าย ๆ หรอก เพราะถ้าจดกันง่าย ๆ ป่านนี้ก็คงเอาไปจดกันหมดแล้วอ่ะครับ

เอาแค่คร่าว ๆ ล่ะกันครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดนี่คงต้องถามคนในดูอีกทีอ่ะครับ
ส่วนเรื่องมาตรฐานยูโร 3 ตามรูปเลยครับ

No comments:

Post a Comment